เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบกับนาข้าวในช่วงที่ฝนทิ้งช่วง เกษตรกรจะต้องปรับเปลี่ยนวิธีในการปลูกข้าวจากรูปแบบเดิมที่มีการใช้น้ำในปริมาณที่มาก หันมาปลูกข้าวในรูปแบบการทำนา “เปียกสลับแห้ง” เพื่อป้องกันความเสี่ยงในเรื่องของปริมาณน้ำที่อาจจะไม่เพียงพอ และเพื่อเป็นการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ สามารถช่วยประหยัดน้ำได้ถึงร้อยละ 30 -50 ขึ้นอยู่กับชนิดของดินและสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ ซึ่งการทำนาแบบให้น้ำขังตลอดฤดูปลูกซึ่งเป็นวิธีปกติของชาวนาทั่วไปจะต้องใช้น้ำประมาณ 1,200 ลบ.ม./ไร่/ฤดู อีกทั้ง ยังช่วยลดต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิงสูบน้ำได้ร้อยละ 30 นอกจากนี้ ในสภาพดินแห้ง รากข้าวได้รับอากาศสามารถแตกรากข้าวใหม่มากขึ้นเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับธาตุอาหารได้ดีขึ้น ต้นข้าวแข็งแรง ทนต่อโรคและแมลงศัตรูข้าวได้ดีขึ้น ช่วยลดการใช้ปุ๋ยและสารเคมีป้องกั้าวอีกทางหนึ่ง |
****ภาพ /ข่าว : ว่าที่ ร.ต.อาทิตย์ อุ่นนาแซง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร
กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ
สำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม โทรศัพท์ 0-4259-9166 E-mail: srisongkhram@doae.go.th |